หน้าหลัก
โครงการ
ข่าวสาร
บทความ
กรรมการ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
หน้าหลัก
โครงการ
ข่าวสาร
บทความ
กรรมการ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
ไทยเนื้อหอม! กองถ่ายต่างชาติปักหมุด 7 เดือน ลงทุนแล้วกว่า 3.3 พันล้าน
26 Aug 2025
ประเทศไทยยังคงเป็นที่จับตามองจากแวดวงภาพยนตร์นานาชาติ โดยข้อมูลล่าสุดจากกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว พบว่าช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 มีกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์มากถึง 322 เรื่อง ใช้งบประมาณลงทุนสูงถึง 3,333 ล้านบาท เฉพาะเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว มีกองถ่ายเข้ามามากถึง 42 เรื่อง ใช้งบลงทุนกว่า 446.37 ล้านบาท
ชาติเอเชียนำทีม กองถ่ายต่างชาติแห่เลือกไทย
หากมองในมิติของประเทศที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการถ่ายทำมากที่สุด ตลาดเอเชียยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักต่ออุตสาหกรรม โดย 3 ประเทศที่ครองอันดับจำนวนกองถ่ายทำภาพยนตร์สูงสุด ได้แก่ อินเดียที่มีผลงานเข้ามาถ่ายทำถึง 39 เรื่อง ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 36 เรื่อง และจีนอีก 34 เรื่อง
กรุงเทพฯ - ปทุมธานี - ชลบุรี ขึ้นแท่นโลเคชันขวัญใจผู้สร้างหนัง
ในด้านสถานที่ถ่ายทำ พบว่า พื้นที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพของเมืองใหญ่ที่ผสมผสานทั้งความทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ขณะเดียวกัน จังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลฝั่งตะวันออกอย่างชลบุรี ก็กลายเป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่ผู้สร้างเลือกใช้บ่อยครั้ง การจัดอันดับนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความโดดเด่นของแต่ละทำเล แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของภูมิทัศน์ไทย ตั้งแต่ความเป็นมหานครระดับโลก ไปจนถึงบรรยากาศชายทะเลที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของกองถ่ายในทุกรูปแบบได้อย่างลงตัว
ตัวเลขที่พุ่งทะยานนี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงเสน่ห์และศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของการผลิตภาพยนตร์ระดับโลก (Premiere Filming Destination) หากแต่ยังสะท้อนถึงความสำเร็จเชิงนโยบายของรัฐบาลที่ได้วางรากฐานไว้อย่างมั่นคง ผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์เพื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยเฉพาะมาตรการคืนเงิน (Cash Rebate) สูงสุด 30% ให้กับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่ง THACCA - Thailand Creative Culture Agency มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดขึ้นจริง
สิทธิประโยชน์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการคืนเงินลงทุน แต่เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนไทยให้กลายเป็น “สนามแม่เหล็ก” ดึงดูดกองถ่ายภาพยนตร์ระดับโลกให้เข้ามาถ่ายทำ เห็นได้จากโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ ที่เข้ามาแล้วอย่าง “Jurassic World: Rebirth” ที่ถ่ายทำในจังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง ใช้งบประมาณลงทุนสูงถึง 650 ล้านบาท
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่ออกแบบมาอย่างครอบคลุมช่วยลดต้นทุนการผลิต การตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำจึงมีความคุ้มค่ามากกว่าที่เคย โดยกรมการท่องเที่ยวคาดการณ์ด้วยว่า มาตรการ Cash Rebate นี้จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 40-50% และสามารถสร้างรายได้รวมตลอดทั้งปี 2568 อยู่ที่ 4,956 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเลขการคืนเงินแก่ผู้สร้าง หรือจำกัดอยู่แค่ภายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เท่านั้น หากแต่ขยายวงกว้างไปถึงการจ้างงานทีมงานเบื้องหลังที่เป็นคนไทย การใช้บริการโรงแรม การเดินทาง การจัดเลี้ยง การเช่าอุปกรณ์ ไปจนถึงการใช้บริการขนส่งในท้องถิ่น เรียกได้ว่า ทุกขั้นตอนของการถ่ายทำสามารถสร้างผลกระทบเชิงทวีคูณ (Multiplier Effect) ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนโดย THACCA-Thailand Creative Culture Agency ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินมาในทิศทางที่ถูกต้องและทรงพลัง การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ได้เพียงสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจมหภาค แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศที่ได้เห็นวัฒนธรรมและเรื่องราวของตนเองถูกนำเสนอผ่านสายตาของโลก
คำว่า “Soft Power” จึงไม่ใช่แค่การหาคำนิยาม แต่คือการลงมือทำอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อสร้างพลังที่จะยกระดับศักยภาพประเทศครั้งใหญ่ ให้คนทั่วโลกหลงใหลในเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย และศักยภาพคอนเทนต์ไทย ปักหมุดประเทศไทยลงกลางใจคนทั้งโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
ที่มา: กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
#THACCA #SoftPower #CreativeCulture #GlobalContentHub #ถ่ายทำต่างประเทศในไทย #FilmInThailand #ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ
Tags : knowledge #film
ข้อตกลงและเงื่อนไข
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สงวนลิขสิทธิ์สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
สงวนลิขสิทธิ์
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)