“ไทย–อินเดีย” ผนึกกำลัง เตรียมจัดเทศกาล “ดิวาลี” สุดยิ่งใหญ่กลางกรุงเทพ

21 May 2025

สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA-Thailand Creative Culture Agency) เดินหน้าจัดเทศกาล “ดิวาลี” ของอินเดีย ผนึกพลังทั้งภาครัฐ-สถานทูตอินเดีย-เอกชนอินเดีย ร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ หวังดึงนักท่องเที่ยวกว่า 500,000 คน กระตุ้นเศรษฐกิจ และยกระดับไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งเทศกาล (Festival Destination) 


เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วย ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมประชุมกับ H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และผู้บริหารจากภาคเอกชนอินเดียรายใหญ่กว่า 10 บริษัท เพื่อหารือแนวทางจัดเทศกาล “ดิวาลี” ในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้






“ดิวาลี” ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่คือมหกรรมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระดับโลก


“ดิวาลี” หรือ “Deepavali” ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวอินเดีย มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า “ชัยชนะของแสงสว่างเหนือความมืด” และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมหาศาล เทียบได้กับ “คริสต์มาส” ในโลกตะวันตก โดยมีการจับจ่ายใช้สอยในหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย อาหาร ของตกแต่ง บ้านพัก และการท่องเที่ยว


ดิวาลียังเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมตัวของครอบครัวและชุมชน การเดินทางท่องเที่ยวจึงพุ่งสูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลาง–บน ที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปสูง ทำให้เทศกาลนี้กลายเป็น เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่ทรงพลัง ในหลายประเทศได้มีการจัดงานเทศกาลดิวาลีอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศเวียดนาม ที่มีข่าวว่าวางแผนจะจัดเทศกาลดิวาลีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในปีนี้






เทศกาลดิวาลีสุดยิ่งใหญ่กลางกรุงเทพฯ


การจัดงานเทศกาล “ดิวาลี” ครั้งนี้ จะอ้างอิงต้นแบบความสำเร็จจาก “งานมหาสงกรานต์ที่ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่” โดยมีกิจกรรมหลัก อาทิ ขบวนพาเหรดแสงสีเสียง การแสดงศิลปวัฒนธรรมอินเดีย การจัด Global Fair การตกแต่งพื้นที่สำคัญ การแสดงแฟชั่นโชว์จากดีไซเนอร์ไทย–อินเดียชื่อดัง คอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียง และงานเทศกาลอาหารอินเดีย–ไทย เพื่อสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและรสนิยมร่วมสมัย ตลอดจนการเปิดพื้นที่ให้ภาคเอกชนจัดแสดงสินค้า บริการ และโปรโมชั่นด้านการท่องเที่ยว






อินเดียพร้อมหนุน–ทูตชี้ “ไทยคือบ้านหลังที่สองของนักท่องเที่ยวอินเดีย”


ทูตอินเดียประจำไทย ย้ำว่า ไทยคือ “Preferred Destination” ของนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยปี 2567 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยกว่า 2.1 ล้านคน และมีเที่ยวบินตรงจากอินเดียกว่า 13 สายการบิน ครอบคลุมเมืองหลักและเมืองรอง


ภาคเอกชนอินเดียที่ร่วมประชุมยังพร้อมหนุนการจัดงานอย่างเต็มที่ พร้อมชื่นชมท่าทีเชิงรุกของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อย่างสร้างสรรค์ในระดับประชาชนและวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งต่อการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว


ดร.นลินี กล่าวว่า เทศกาลดิวาลีในไทยปีนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย–อินเดียในหลากหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม ประชาชน และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียศักยภาพสูง ที่มีแนวโน้มเดินทางซ้ำและใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่า 50,000 บาทต่อคนต่อทริป
นพ.สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เทศกาลดิวาลีจะเป็นกลไกสำคัญของประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอย พร้อมเดินหน้ายกระดับให้มีความยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับเทศกาลสงกรานต์ และต่อยอดสู่การเป็นเทศกาลประจำภูมิภาคในอนาคต






เป้าหมายระยะยาว ดันไทยสู่ “เวทีวัฒนธรรมของโลก”


เทศกาลดิวาลีในไทยไม่ใช่เพียงกิจกรรมเฉลิมฉลอง แต่คือ ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว–บริการไทยให้ตอบโจทย์ในขยายตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายศักยภาพสูง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น Festival Destination อย่างแท้จริงในระดับภูมิภาคและเวทีโลก






#committee #festival